Ingredients
Greentechbiolab Materials list
Shea Butter Sweden
ผลิตโดย: Sweden
มีลักษณะคล้ายเนย ได้จากการสกัดผลของต้นKarite
มีสีครีมและกลิ่นมันเนยประโยชน์ของ shea butter ใช้เป็น facial and body moisturizer ได้ดีช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้งตึงทาหนังศีรษะ ช่วยให้ไม่แห้ง เกิดรังแค ช่วยเรื่องผื่นได้ ช่วยลดอาการอักเสบของผิวที่ลอกจากการถูกแดดเผาหากตากแดดจัดได้ดี
Shea butter สาร antioxidant ช่วยปกป้อง ผิวแห้ง อาการคัน หากทำเป็น Shaving Cream จะช่วยรักษาผิวที่แตก เช่น ส้นเท้า หน้าท้องลายหลังคลอด จะช่วยให้แผลเป็นนิ่มลง Shea butter นั้นดูดซึมเข้าสู่ผิวดีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งอุดมไปด้วย
Vitamin Aและ E หากใช้อย่างต่อเนื่อง Shea butter ช่วยลดริ้วรอย รูขุมขนไม่อุดตันอีกด้วย
วิธีการผสม : ไม่ละลายในน้ำ ต้องผสมในน้ำมัน (oil-phase) โดยการใช้อุณหภูมิ 60-70องศา
การเก็บรักษา : ควรปิดภาชนะบรรจุให้แน่น หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด มีอายุการใช้งาน2ปี
การนำไปใช้ : ใช้เป็นส่วนผสมของ ครีมบำรุงผิว โลชั่น ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ facial and body moisturize
อัตารการใช้ : 1-100% ขึ้นไปขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานของตัวผลิตภัณฑ์
Vitamin E (DL-Tocopheryl Acetate)
ผลิตโดย : Eisai / Japan
ลักษณะ : เป็นน้ำมันสีเหลือง เป็นวิตามินอีที่ได้จากการสังเคราะห์ขึ้น
เป็นวิตามินอี ชนิดที่มีชีวปริมาณออกฤทธิ์ (bioavailability) สูงสุด สกัดจากพืช ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระ ซี่งเป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของ เซลล์
ลดการเกิด Lipid Peroxidation ปกป้องชั้นLipid ที่เคลือบผิว ทำให้ชั้นเคลือบผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยลดการ สูญเสียน้ำจากเซลล์ได้ผิวได้ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นลดความแห้งกรานของผิวทำให้ผิวนุ่มนวล
ช่วยรักษาผิวที่ไหม้เกรียมแดดจากแสง ลดการเกิดมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดด
ช่วยลดการละคายเคืองของผิว
วิธีการผสม : ละลายในน้ำมัน ใช้ผสมร่วมกับน้ำมันชนิดอื่นๆ แต่อย่าให้เกินความร้อนเกิน 5 นาที จะทำให้ประสิทธิภาพเสื่อมลง
การเก็บรักษา : เก็บในที่เย็น 4-8องศา ห้ามโดนความร้อนและแสง มีอายุการใช้งาน3ปี
การนำไปใช้ : ส่วนใหญ่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย เจล เซรั่ม คีรมกันแดด
อัตราการใช้ : 0.1-1%ขึ้นอยู่กับตัวของผลิตภัณฑ์ หากใช้มากเกินไปจะทำให้เหนอะหนะได้
Almond oil refined
ผลิตโดย : Henry Lamotte / Germany
ลักษณะ : เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้องเป็นน้ำมันสีเหลือง
มีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ทำให้ผิวไม่แห้ง หรือระคายเคือง ฟื้นฟูผิวที่แห้ง กร้าน หยาบกระด้าง ลดรอยหมองคล้ำใต้ตา ลดริ้วรอย รอยแผลเป็น จุดด่างดำ ทำให้ผิวกระชับ สวยเปล่งปลั่ง และอ่อนกว่าวัย บำรุงเส้นผม และหนังศรีษะให้ผม แข็งแรง เงางาม
almond oil : มีวิตามิน A, B1, B2, B6 และ E ซึ่งคุณสมบัติช่วยคืนสมดุลให้ผิว ฟื้นฟูผิวที่แห้ง กร้าน หยาบกระด้าง ทำให้ผิวชุ่มชื้นผิวดูอ่อนเยาว์ ลดการระคายเคือง การคัน การอักเสบ โดยเฉพาะผิวที่แห้งและแพ้ง่าย บำรุงบริเวณใต้ตา ลดรอยหมองคล้ำใต้ตา
วิตามิน E ทำให้เส้นผม แข็งแรง เงางาม มีสุขภาพดี ลดการขาด หลุด ร่วง ของเส้นผม ช่วยทำให้ เส้นผม และหนังศรีษะ สะอาด และลดการเกิดรังแค
วิธีการผสม : ผสมในส่วนของน้ำมันในสูตร(ขึ้นอยู่กับสูตรการใช้งาน)
การเก็บรักษา : มีอายุการงาน 1ปีนับจากวันผลิตและหลังจากการเปิดใช้งานมีอายุการใช้งานได้ 6 เดือน หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน แสงแดด และ อากาศ
การนำมาใช้ : ใช้เป็นน้ำมันนวด สามารถใช้ทาผิวได้โดยตรง ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผม สบู่เหลว โลชั่น ครีม ผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงใต้ตา
อัตราการใช้ : 1-100% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้
ข้อควรระวัง : สำหรับผู้ที่แพ้ถั่ว หรือโปตีนถั่วไม่แนะนำให้ใช้
Macadamia nuts oil
ผลิตโดย : Southern cross / Australia
ลักษณะ : เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเนื้อแมคาเดเมีย
เหมาะสำหรับใช้สำหรับทาตัว ทำให้ผิวนุ่มนวล และมีความเข้มข้นของกรดไขมัน Palmitoleic สูง ซึ่งเป็นไขมันชนิดเดียวกับที่ต่อมไขมันในร่างกายเราผลิตได้ กรดไขมันนี้เป็นไขมันที่ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ ชะลอไม่ให้ผิวพรรณร่วงโรยตามวัย
macadamia nuts oil : อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชุ่มชื่น
มีกรดไขมันที่ปกป้องและเสริมสร้างสุขภาพของเซลล์ผิว
มีสารต้านอนุมูลสระและสารที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและช่วยสังเคราะห์วิตามินดีให้กับร่างกายให้ผิวอ่อนเยาว์ ชะลอไม่ให้ผิวพรรณร่วงโรยตามวัย ลดความแห้งกรานของผิว
วิธีการผสม : ผสมในส่วนของน้ำมันในสูตร(ขึ้นอยู่กับสูตรการใช้งาน)
การเก็บรักษา : น้ำมันแมคคาเดเมีย มีอายุ 1 ปี จากวันผลิต และมีอายุ 6เดือน หลังเปิดใช้งาน กรุณาหลีกเลี่ยง ความร้อนแสงแดด และ อากาศ
การนำไปใช้ : ใช้เป็นสารให้ความชุ่มชื่นในผลิตภัณฑ์ ครีม โลชั่น เซรั่ม ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผม หรือใช้ทาตัว
อัตราการใช้ : 1-100% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้
ข้อควรระวัง : สำหรับผู้ที่แพ้ถั่ว ไม่แนะนำให้ใช้
Shea Butter refined
ผลิตโดย: Henry Lamotte / Germany
เป็นแบบสีขาวนวลไม่มีกลิ่น ไม่เติมน้ำหอม เพื่อผิวแพ้ง่าย หรือผิวเด็กใช้ได้โดยไม่ระคายเคืองผิว
ประโยชน์ของshea butter ใช้เป็น facial and body moisturizer ได้ดีช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้งตึง ทาหนังศีรษะ ช่วยให้ไม่แห้ง เกิดรังแค ช่วยเรื่องผื่นได้ด้วย เด็กทารกก็ใช้รักษาผื่นจากพวก diaper rash ได้
หากตากแดดจัด ผิวลอก ทา shea butter ช่วยได้ดีช่วยรักษาผิวที่ถูกแสงแดดเผา (ลดอาการแสบไหม้) มี สาร antioxidant ช่วยปกป้องผิวจาก free radicals ผิวแห้งแล้วคัน shea butter ช่วยลดอาการคันได้ สำหรับผู้ชายก็ใช้เป็น shaving cream ก็ได้ รักษาผิวที่แตก เช่นส้นเท้าได้ดีและช่วยให้แผลเป็นนิ่มลง คนท้องก็ทา shea butter ป้องกันหรือลดท้องลายได้ ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวดีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว Shea butter อุดมไปด้วย vitamin A และ E ซึ่งก็เป็น anti aging and antioxidant ใช้อย่างต่อเนื่องช่วยลดริ้วรอย และยังช่วยเรื่อง skin rejuvenating ได้ นอกจากนี้ Shea butter ไม่อุดตันรูขุมขนอีกด้วย
อัตราการใช้: 1-100%
Rice Bran oil
ผลิตโดย : Tsuno Rice Fine Chemicals / Japan
น้ำมันรำข้าว นอกจากจะมีวิตามินอีธรรมชาติในรูปแอลฟา-Tocopherol จำนวนมากแล้วน้ำมันจมูกข้าวและน้ำมันรำข้าวยังมีสารแกมม่า-ออไรซานอล ในปริมาณมากเช่นกัน ซึ่งสารทั้งสองเป็นสารแอนตี้ออกซิแด้นซ์ช่วยป้องกันเนื้อเยื่อถูกทำลาย โดยอนุมูลอิสระ รวมทั้งวิตามินบีคอมเพล็กซ์ โอเมก้า 6 และเซลาไมซ์(Ceramide) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่า สารอาหารดังกล่าว มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง ผ่องใสมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ ทำให้แก่ช้า หรือ ชลอความแก่ ที่มีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป
ลักษณะ : เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากการสกัดรำข้าวดิบ ของเหลวที่ อุณหภูมิห้องมีลักษณะเป็นสีเหลืองอำพันอ่อนๆ
Rice Bran oil : สามารถซึมซับผิวได้รวดเร็วและไม่มีกลิ่น
มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในเรื่องชะลอวัย ชะลอความเสื่อม ความแก่ของร่างกาย ทำให้ดูอ่อนเยาว์
บำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น และบำรุงผิวให้นุ่มนวล เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ดูออนเยาว์ ป้องกันและลดการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่าง บำรุงเส้นผมให้ดูนุ่มลื่น
วิธีการผสม : ผสมในส่วนของน้ำมันในสูตร(ขึ้นอยู่กับสูตรการใช้งาน)
การเก็บรักษา : เก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศา หลีกเลี่ยงในที่สว่าง
การนำไปใช้ : ผสมสบู่ ผสมเจล ผสมครับขัดผิว โลชั่นบำรุงผิว ครีมบำรุงผิวหน้า ผสมกับ Essential Oil เพื่อใช้เป็นน้ำมันนวดตัว ใช้หมักผมเพื่อปรับสภาพผม
อัตราการใช้ : 1-100% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้
Avocado oil , Refined
ผลิตโดย: Henry Lamotte / Germany
น้ำมันอะโวคาโด (Avocado oil) เป็นน้ำมันสกัดจากเนื้อของผลอะโวคาโด เป็นน้ำมันที่ดูดซึมสู่ผิวหนังได้ดี ประกอบด้วยวิตามินอี กรดไขมัน linoleic และ oleic, phytosterol ใช้ นวดศีรษะเร่งการงอกของผม แนะนำสำหรับผู้ที่มีสิว ชุบด้วยสำลีเช็ดให้ทั่วใบหน้า หรือบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวหายเร็ว และช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น ช่วย ให้ผิวมีความยืดหยุ่น (elasticity) เนียนนุ่ม น้ำมันเมล็ดอะโวคาโด มีกลิ่นหอมหวานคล้ายถั่ว เป็นนํ้ามันที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และเลซิติน อีกทั้งยังมีกรดไขมันที่จําเป็น เป็นจํานวนมาก เช่น Palmitic, Palmitoleic, Stearic, Oleic, Linoleic และ Linolenic สามารถซึมซาบสู่ผิวชั้นในได้ดี บํารุงผิวและเส้นผมได้เป็นอย่างดี
น้ำมันเมล็ดอะโวคาโด มี Sterolins หรือสเตอรอยด์จากพืชค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นสารสําคัญที่มีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอย บำรุงผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดด และ ช่วยลดรอยแผลเป็น อีกทั้งยังช่วยทําให้ผิวเนียนนุ่ม สามารถใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวได้เป็นอย่างดี ฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแดด ทาแก้ผื่น eczema โรคสะเก็ดเงิน
ผู้ที่ผิวแห้งมาก นํ้ามันอโวคาโด สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวชั้นนอกได้ง่าย เป็นนํ้ามันที่ให้ความนุ่มลื่นแก่ผิวได้ดี ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ช่วยบรรเทาอาการผิวแห้งกร้าน คัน และ สามารถปัญหาผิวหนังหลาย ๆ ชนิด เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง แห้งกร้าน และเหี่ยวย่น ช่วยเพิ่มความนุ่ม ชุ่มชื่นให้กับผิว สามารถใช้ได้ทั้งหน้าและตัว
วืธีการผสม : ผสมในส่วนของน้ำมันในสูตร(ขึ้นอยู่กับสูตรการใช้งาน)
การเก็บรักษา : มีอายุ 1 ปีจากวันผลิตและมีอายุ 6เดือน หลังเปิดใช้งาน หลีกเลี่ยงความร้อนแสงแดดและ อากาศ
การนำมาใช้ : ผสมโลชั่นบำรุงผิว ผสมกับน้ำมันหอมระเหยใช้เพื่อใช้ในการนวด ผสมในผลิตภันฑ์บำรุงผม ใช้ในการหมักผม ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ครีมบำรุง เซรั่ม
อัตราการใช้ : 1-100% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้
Vitamin B3
ผลิตโดย: -
มีส่วนช่วยให้กระบวนการเมตาบอริซึ่มของเซลผิว ทำให้เซลทำงานได้เป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระดับเซรามาไมด์ของผิว ซึ่งการที่ผิวเรามีเซราไมด์เยอะนั้นจะทำให้ผิวเรากักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีดีขึ้น เป็นเหมือนเกราะป้องกันผิวชั้นดี
ผลการวิจัยออกมาว่า Vitamin B3 หรือ Niacinamide 5% นั้นเมื่อใช้ทาผิวต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ สามารถช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดำ ร่องลึกดูจากลง นอกจากนี้ยังทำให้ผิวที่แห้งกร้านมีความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
Vitamin B3 ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวเท่านั้น ยังมีข้อมูลที่บอกอีกว่ามีผลต่อการเคลื่อนที่ของเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กำหนดสีผิวของเรา โดย Vitamin B3 จะทำช่วยยับยั้งการเคลื่อตัวของเมลานินที่จะเคลื่อนตัวขึ้นมายังผิวชั้นบน มีส่วนช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนแลดูขาวขึ้นได้
คุณสมบัติหลัก Vitamin B3
ผงวิตามินบี 3 บริสุทธิ์ 100%ชนิดNiacinamide มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ขาวใสขึ้น ลดการผลิตเม็ดสีทำให้สีผิวจางลง และเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินชนิดที่ช่วยเพิ่มความกระชับแก่ผิว หน้าขาว vitamin B3
ผงวิตามินบี 3 เข้มข้นบริสุทธิ์ 100% ใช้เพื่อการบำรุงเป็นพิเศษ เพียงผสมสดในครีมบำรุงผิวหน้าของคุณเป็นประจำ เป็นเสมือนสูตรลับในตำรับของคุณเองหน้าขาว vitamin B3
วิตามินบี 3 บริสุทธิ์ 100% เป็นวิตามินที่ได้จากการสังเคราะห์ มีคุณสมบัติละลายได้ดีในน้ำ เป็นส่วนผสมที่สำคัญในการผลิตครีมบำรุงผิวหน้าสูตรต่างๆทั่วโลก เป็นวิตามินชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมากหน้าขาว vitamin B3
ประโยชน์ Vitamin B3
ช่วยบำรุงผิวได้ถึงผิวชั้นในอย่างอ่อนโยน ทำให้แลดูผิวขาวอมชมพู
ดูมีเลือดฝาด พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลา เจนและอีลาสติน
เพิ่มอัตราการผลัดตัวของเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส
ช่วยลดจุดด่างดำ ใบหน้าจึงมีสีผิวสม่ำเสมอ
ลดการอักเสบของผิวหนัง และลดปัญหาการเกิดสิว
อัตราการใช้การ: 0.5-5%
Sodium lactate
ผลิตโดย: -
Sodium lactate เป็นสารธรรมชาติที่ได้จาก lactic acid + เกลือของ Sodium ช่วยทำให้สบู่แข็งเร็วและสามารถเอาออกจากแม่พิมได้ดีขึ้น (lactic acid )เป็นกรดที่ได้จาก fermentation ธรรมชาติ)
อัตราการใช้ 1-3%
รายละเอียดเพิ่มเติม Sodium lactate สามารถไปดูตามวิดีโอ: